เป็นแบบนี้มั้ยคะ? จะต้องพูด หรือ Present งานภาษาอังกฤษทีไร
- มันกลัว มันกังวล สั่นไปหมด
- ที่เตรียมบทมา กลับจำคำอะไรไม่ได้เลย
- พูดไป คนฟังก็ดูไม่สนใจ หรืออาจจะแอบวิจารณ์คำพูดของเราอยู่ในใจก็ได้
ถ้าเคยเจอเหตุการณ์เหล่านี้มาเหมือนกัน แสดงว่าเข้ามาอ่านบทความที่ใช่แน่นอนค่ะ
แอดมินขอนำเสนอ
3 techniques that you must know to give a killer speech in English
3 เทคนิคที่ต้องรู้ เพื่อให้พูดพรีเซ้นต์หรือบรรยายได้อย่างปัง!
1. Prepare your script outline & keywords
เตรียมข้อมูลเป็นโครงเรื่อง และเน้นคำสำคัญ
ถ้าเราพูดนำเสนอ เหมือนกับท่องบท หรือมาอ่านบทอย่างเดียวเลย
อาจจะทำให้ผู้ฟังไม่สนใจ ไม่ตั้งใจฟังสิ่งที่เราอยากนำเสนอ และยังดูไม่เป็นมืออาชีพอีกด้วย
ดังนั้น วิธีแก้คือ ให้เราเอาตัวเองออกมาจาก Script ให้ได้
และเตรียมตัวนำเสนอด้วย การจัดการกับ idea ความคิด เป็นแบบ Bullet point หรือแบบ Mind map
ซึ่งเราสามารถเตรียมตัวด้วยวิธีนี้ก่อนที่จะเริ่มพูดได้ ไม่ว่าเราจะมีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่ก็ตาม
จะเป็น 1 วัน , 1 ชั่วโมง หรือแค่ 5 นาที ก็สามารถทำได้ค่ะ
Mind map ที่จะใช้ในการเตรียมตัวนำเสนอ ควรประกอบไปด้วย
- Topic หรือ หัวข้อหลัก ว่าทั้ง Session นี้ หรือ 1 ชั่วโมง หรือ 5 นาที ที่เรากำลังจะพูดนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
- Main ideas หรือ หัวข้อย่อย อาจจะมีประมาณ 2-3 หัวข้อย่อย แล้วแต่เนื้อหา
อาจจะเป็น Agenda (กำหนดการ) ของการประชุม หลักการ วิธีการ หรือเหตุผลต่าง ๆ ที่มาสนับสนุน Topic หลักที่เราจะพูด - Supporting details หรือ ข้อมูลเสริม ที่ทำให้คนเข้าใจ หรือเชื่อใน ideas ของเรามากขึ้นคืออะไรบ้าง
เป็นการเรียบเรียงความคิดของเรา ออกมาเป็นคำ หรือเป็นวลี แล้วใส่ Keyw

เวลาพูดจริง ๆ เราก็แค่ Glance (ชำเลืองมอง) ไปที่ mind map ที่เราจดเตรียมไว้ในกระดาษโน้ตเล็ก ๆ
การที่เราเรียบเรียง เนื้อหาออกมาในรูปแบบนี้ จะทำให้เราจำได้ในรูปแบบที่เราเอามาใช้ได้ง่ายมากที่สุด
2. Work on your verbal communication
ฝึกทักษะการสื่อสารเชิงวัจนะ (ฝึกทักษะภาษาพูด)
ทักษะการสื่อสารเชิงวัจนะนี้ มีหลากหลายด้านให้เราได้พัฒนา เป็นทักษะที่สำคัญมาก ที่เราควรต้องเริ่มฝึกไว้เลย ถ้าเราอยากจะพูดนำเสนอได้แบบโปร
ตัวอย่างของทักษะการสื่อสารเชิงวัจนะ
ที่เราสามารถปรับได้ สำหรับการพูดภาษาอังกฤษกับคนเยอะ ๆ
- Stress and intonation (การเน้นคำ และเสียงขึ้นลงในการพูด)
การเน้นคำ หรือเสียงขึ้นลงในการพูดนั้น เราสามารถปรับตามข้อความที่เราต้องการเน้น หรือการให้ความหมายพิเศษอะไรบางอย่างในประโยคนั้น ๆ
มีการ Stress เสียงของคำ ตามข้อความที่ต้องการเน้น
เช่น
“There is NO such thing as a HARD language.”
“ไม่มีภาษาใด ที่ยากเกินไป” (ข้อความจากหนังสือ Fluent Forever)
การเน้นคำแบบนี้ในประโยค จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจ จดจำ และรู้สึกไปกับข้อความได้มากขึ้น
- การ Pause (การหยุด)
ไม่ใช่แค่หยุด เพราะหายใจไม่ทัน แต่เป็นการหยุด เพื่อให้ผู้ฟังได้ย่อยข้อความ หรือทำความเข้าใจกับข้อความของเราได้ดีขึ้น
หรืออาจจะเป็นการหยุดเพื่อเพิ่ม Impact ให้ข้อความต่อไปที่กำลังจะมา

ตัวอย่าง
Prime Minister Justin Trudeau’s speech at Canada House in London (2015)
สุนทรพจน์ของอดีตนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau กล่าวที่ Canada House in London เมื่อปี ค.ศ. 2015
สามารถรับชมวิดีโอได้ทาง: https://www.youtube.com/watch?v=kp7azBHM3FU
- Repetition (การใช้วลีเดิมซ้ำ ๆ)
การใช้คำ/วลีเดิมซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบ เพื่อต้องการเน้น และสร้าง Impact เพิ่มให้กับข้อความนั้น ๆ

ตัวอย่าง
Former US President Barack Obama’s speech during the Democratic National Convention (2004)
สุนทรพจน์ของอดีตประธานาธิบดี Barack Obama กล่าวในวาระการประชุมประชาธิปไตยระดับชาติ เมื่อปี ค.ศ. 2004
สามารถรับชมวิดีโอได้ทาง: https://www.youtube.com/watch?v=ueMNqdB1QIE
3. Use more of your body language
ใช้ภาษากายให้มากขึ้น
“55% of the impact and meaning of your message is communicated though nonverbal or body language”
“ภาษากายมีผลต่อข้อความ และความหมายในการสื่อสารมากถึง 55%”

เราสามารถที่จะทำให้การพูดนั้นน่าฟัง หรือให้คนสนใจเรามากขึ้น แค่ขยับตัวนิด ๆ หน่อย ๆ ที่ปกติเราไม่ได้ทำ
รวมไปถึง Facial Expression (การแสดงสีหน้า) ที่แตกต่างด้วยเช่นกัน
ซึ่ง Body language ในภาษาไทย และภาษาอังกฤษนั้น ไม่เหมือนกันหลายคำเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น

“Fingers crossed” และการทำนิ้วชี้กับนิ้วกลางไขว้นิ้วกัน ในภาษาอังกฤษ
หมายถึงว่า ผู้พูดกำลังลุ้น หรือภาวนาสิ่งที่พูดถึงอยู่นั้น จะมีผลลัพธ์จะออกมาในทางที่ดี
กับคำว่า “สาธุ” ในภาษาไทย ว่าขอให้เป็นเช่นนั้น หรือสิ่งนั้นดีแล้ว แต่การแสดงท่าทางจะไม่ใช่การไขว้นิ้ว แต่อาจจะเป็นการพนมมือขึ้น เป็นต้น
So, there are those who speak words in English and those who talk in English like native speakers.
ดังนั้น บนโลกนี้จะมีทั้งคนที่พูดเป็นภาษาอังกฤษได้ และจะมีคนที่สื่อสารภาษาอังกฤษ ได้เหมือนเจ้าของภาษาด้วย
ฝรั่งอั่งม้อ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกความตั้งใจในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ รวมไปถึงทักษะในการสื่อสารค่ะ
All the best & happy learning, คะน้า 😀
————————————-
ยังไม่สะใจ?! ขอเรียนต่อแบบลงลึก??
พัฒนาทักษะการพูด Public Speaking & Presentation in English ให้โดดเด่น ดึงดูด และโดนใจผู้ฟัง แบบโปร !!
ด้วยคอร์สออนไลน์ Present Like a Pro – English for Presentation & Public Speaking