เคยเจอปัญหาแบบนี้มั้ยคะ? เวลาดูหนัง หรือซีรี่ย์ภาษาอังกฤษ ต้องย้อนกลับไปหลายรอบมาก แต่ก็ยังฟังไม่ออกว่าเขาพูดว่าอะไร..
นี่มันภาษา Alien ชัด ๆ เหมือนที่เรียนภาษามาตั้งแต่เด็ก ไม่ช่วยให้เราฟังเก่งขึ้นเลย ทำไม!!
แอดมินเข้าใจค่ะ แอดมินก็เคยเป็นมาเหมือนกัน แต่ตอนนี้..แอดมินรู้วิธีเอาชนะปัญหานี้แล้ววว
เพราะฉะนั้น แอดมินขอเสนอ…
3 เทคนิควิธีฝึกฟังภาษาอังกฤษ ให้ได้ผลสักที !
วิธีแรก
Brain soaking แช่สมองกับภาษาอังกฤษ
มันคือการที่เรา เอาตัวเองจุ่ม หรือรอบล้อมไปด้วย English speaking sounds หรือเสียงภาษาอังกฤษค่ะ
และสิ่งที่เรามักจะกังวลคือ เปิดทิ้งไว้ไม่เข้าใจ จะได้ผลหรอ?
จริง ๆ แล้ว ถึงบางทีจะไม่เข้าใจทั้ง 100% แต่ก็มีผลกับการเรียนรู้และจดจำของสมองได้นะคะ
ทุกคนเคยเป็นแบบนี้ปะ ดู series เกาหลี ไม่เข้าใจเลยนะ อ่านซับเลยแหล่ะ เฮ้ยย อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเกาหลี อยู่ในหัวเฉยเลย
หรือเวลาที่ไปเดินห้างหรือไปที่ไหนแล้วได้ยินเพลงอะไรบ่อย ๆ ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ฟัง ไม่ได้รู้จักเพลงนี้เลย อยู่ดี ๆ มันติดในหัวเฉยเลย
And before you know it, you already have that voice in your head! (พอรู้ตัวอีกที เสียงนั้นก็ติดอยู่ในหัวแล้ว)
เพราะฉะนั้นการเปิดสื่อภาษาอังกฤษให้ได้ยินบ่อย ๆ จะเปิดพร้อมกับทำอย่างอื่นไปด้วยก็ได้นะคะ
ขับรถ ล้างจาน แต่งหน้า ทำกับข้าว เปิดไปเลย เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ไม่เป็นไร
อย่างน้อยเราก็ได้คุ้นชินกับ set เสียงในภาษานั้น และมันจะมีประโยชน์สำหรับการออกเสียงของเราในภายหลังด้วยค่ะ
วิธีที่สอง
Catch the fish จับปลา
ในขณะที่เราฝึกฟัง ให้เราจดสิ่งที่เราได้ยิน แค่เดา ไม่จำเป็นต้องถูกก็ได้นะคะ
เช่น ดูหนัง หรือฟังเพลง แล้วลองทายว่า คือคำว่าอะไร ก่อนที่จะดูเฉลยจาก subtitle หรือ lyrics
แต่ไม่ใช่แค่นั้น !! พอฝึกสักพักแล้ว ลองให้ตัวเองได้ฝึกจำจากการฟังออกมาเป็น Phase (วลี) & Sentence (ประโยค)
แทนที่เราจะจำคำศัพท์เป็นคำ ๆ ให้เราเปลี่ยนมาเป็นจำเป็นวลี เป็รประโยค หรือจำมาทั้งก้อนเลยได้ยิ่งดีค่ะ
ตัวอย่างเช่น: Some people are worth melting for.” – Olaf (ประโยคจากหนังเรื่อง Frozen)
ถ้าเราเพิ่งรู้จักคำนี้จากภาพยนตร์ แทนที่จำแค่ “worth” แปลว่า “คุ้มค่า”
ให้ยกมาทั้งเลย Some… are worth …ing for
เวลาเอาไปใช้ก็ไปปรับนิดปรับหน่อย
เช่น Some things are worth fighting for.
(บางสิ่งคุ้มค่าที่จะสู้เพื่อให้ได้มา…) เป็นต้น
เพื่อที่ว่าเวลาที่เราเอามาใช้ เราจะได้ยกมาทั้งก้อนเลย มาใช้ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน
ถ้าจำเป็นคำ ๆ แยกกัน เราต้องมานั่งประกอบร่าง ทุกครั้งที่จะใช้
ก็พูดได้ไม่ทันใจสักที วิธีที่จะทำให้เราพูด และใช้ภาษาได้ง่ายและเร็วที่สุดคือตรงนี้เลยค่ะ ได้ยิน แล้ว เอามาใช้ copy & paste
วิธีที่สาม
Shadowing พูดตามทันที ให้เหมือนที่สุด
มันคือการที่เราได้ยินอะไร ปุ้ป แล้วพูดตามทันที เป็นคำสั้น ๆ พยายามให้ชัดที่สุด ทำตัวเป็นนกแก้ว นกขุนทองเลยค่ะ
ลองเปิดเสียงจากหนังที่เราชอบ เปิดวน ๆ แล้วพูดคำ หรือวลีเดิมเรื่อย ๆ
ดูง๊ายง่าย แต่เป็นวิธีที่เขาทำกัน แถมมีงานวิจัยมากมายที่บอกว่า ทำแล้วได้ผลจริงค่ะ
เสียงนั้น จะถูกจดจำอยู่ในหัว ทำให้เลียนเสียง เลียน stress (การเน้นพยางค์) ท่าทางการสื่อสาร อารมณ์ได้ง่ายกว่า
เพราะภาษาคือการสื่อสาร ไม่ใช่แค่การท่องศัพท์
การที่เราฝึกด้วยวิธีแบบนี้ เราจะได้ฝึกทั้ง pronunciation (การออกเสียง), listening (การฝึกฟัง) และ speaking (การฝึกพูด) เลยค่า
See? You kill so many birds with one stone!
(เห็นมั้ยคะ? เรายิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัวเลย)
And like I always say “all 4 language skills are interconnected.”
ทั้ง 4 ทักษะภาษามันเชื่อมกัน ฟัง พูด อ่าน เขียน นอกจากฝึกฟังแล้ว
ที่สำคัญมาก ๆ คือการที่เราเอาสิ่งที่เข้าหัวเราไปแล้ว (input) ออกมาใช้ (output)
เพื่อให้เราจดจำข้อมูลนั้น ไม่งั้นเราจะต้องบ๊ายบายคำศัพท์ และทุกอย่างที่เราได้เรียนไป น่าเสียดายแย่เลยเนอะ
All the best and happy learning!, คะน้า