แอดมินเชื่อว่าหลาย ๆ คน น่าจะชอบดูหนัง ดูซีรี่ส์กัน เพื่อผ่อนคลาย หรือเพื่อความบันเทิง แอดมินก็เช่นกันค่ะ แล้วถ้าเราอยากจะให้การดูหนัง หรือดูซีรีส์เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกภาษา จะฝึกยังไงให้เก่งภาษาได้เร็ว พูดได้เป๊ะเหมือนเจ้าของภาษามากยิ่งขึ้น
บทความนี้ แอดมินนำ 3 เทคนิคง่าย ๆ เก่งภาษาได้เร็ว จากการดูหนัง-ซีรีส์ มาฝากค่ะ
เทคนิคที่ 1 Spaced Repetition เว้นช่วงและดูซ้ำ
Spaced = เว้นระยะ
Repetition = การทำช้ำ
Spaced Repetition จึงหมายถึง “การเว้นระยะของการทำซ้ำ”
เทคนิคนี้เรียบง่าย แต่ได้ผลสุด ๆ ค่ะ Simple yet effective.
มีหลายงานวิจัย บอกไว้ว่า ถ้าเราต้องการให้ข้อมูลมันอยู่ในความจำได้นาน ไม่ลืมง่าย ๆ นี่คือวิธีที่ดีมากเลยค่ะ

หลักการคือ เมื่อเราเรียนอะไรบางอย่าง หรือชุดข้อมูลอะไรบางอย่างแล้ว ให้เว้นช่วงไปก่อน พอใกล้จะลืม ค่อยกลับไปทบทวนชุดข้อมูลนั้นอีกครั้ง

และที่สำคัญเลยคือ เราไม่ควรเรียนรู้หรือจำอะไรมาก ๆ ในทีเดียว แล้วก็ทิ้งยาวไปเลย ให้เราค่อย ๆ เอาข้อมูลเข้าไปในสมอง พอจะลืม ค่อยกลับไปทบทวนซ้ำอีกครั้ง
ตัวอย่างการใช้เทคนิค Spaced Repetition ในการดูหนัง/ซีรี่ส์ เพื่อฝึกทักษะภาษา
แอดมินจะดูหนัง/ซีรี่ส์เรื่องเดิมทั้งหมด 3 รอบด้วยกัน
รอบที่ 1 ดูพากษ์อังกฤษ และเลือก Subtitle ภาษาไทย ดูเพื่อความสนุกสนาน เพื่อให้เข้าใจเนื้อเรื่อง เพราะถ้าเราเปิดมาทั้งเรื่องแล้ว ไม่เข้าใจอะไรเลย เราก็จะไม่อยากดูซ้ำอีก
รอบที่ 2 ดูพากษ์อังกฤษ และเลือก Subtitle ภาษาอังกฤษ รอบนี้จะดูเพื่อศึกษาคำศัพท์ และประโยคที่น่าสนใจ มีอะไรที่น่านำมาใช้งานได้บ้าง และดูว่าตัวละครในหนังใช้ประโยคแบบไหน พูดยังไง และใช้ในสถานการณ์อะไรบ้าง เช่น เวลาที่ตัวละครมีความสุขมากเลย เขาใช้คำแบบนี้ ใช้รูปประโยคแบบนี้ หรือเวลาที่เศร้า อกหักเขาใช้คำแบบนี้ การที่เราเรียนภาษาอังกฤษจากหนังหรือซีรี่ส์แบบนี้ ทำให้เราเข้าใจบริบทในการใช้งานคำ และประโยค ที่เราได้เรียนมาทันทีว่าควรใช้ในสถานการณ์แบบไหน
รอบที่ 3 ดูพากษ์อังกฤษ แบบไม่มี Subtitle
เพื่อทดสอบความจำ และเก็บรายละเอียดอื่น ๆ ของการสื่อสารจากการดูในรอบที่ 2 ที่เราอาจจะพลาดองค์ประกอบสำคัญอะไรบางอย่างไป เช่น
- Pronunciation การออกเสียง
- Body language ภาษากาย
- Interjections คำอุทาน
- Gap fillers คำประกอบการสนทนา
เทคนิคที่ 2 Imitation technique ลอกเลียนแบบทันที
การที่เรานั่งฟังภาษาอังกฤษบ่อย ๆ แน่นอนว่าอาจช่วยเรื่องในการฟังเข้าใจมากยิ่งขึ้น แต่ยากที่จะช่วยให้พูดคล่อง หรือออกเสียงได้เป๊ะขึ้นทันที เพราะการฟังหรือการดูมันเป็นการรับข้อมูลเข้ามาเป็น Input ถ้าเราอยากพูดได้คล่องจะต้องเกิด Output หรือการได้ใช้ ได้พูดภาษานั้นออกไปด้วย
มีวิธีที่ง่ายมาก โดยที่ไม่ต้องไม่มีคนมาพูดด้วยก็ได้ คือเมื่อเราได้ฟัง ได้ดูแล้ว ให้เรา Acting ตามทันทีเลย เช่น
- เราได้ดูฉากหนังที่หน้าสนใจเขาพูดประโยคนี้แล้วมันเท่มาก ๆ เลย
- ให้เรากดย้อนกลับไปดูแล้วก็พูดตาม ด้วยโทนเสียง การออกเสียง ด้วยอารมณ์ให้เหมือนคนในหนังเลย
- เวลาที่เราฝึกพูดตามทันที เสียงต้นแบบ หรือ เสียงของเจ้าของภาษานั้น จะยังอยู่ในหัวเรา ทำให้เราสามารถที่จะลอกเลียนแบบได้ใกล้เคียงมากที่สุด
ข้อดีมาก ๆ ของเทคนิควิธีในการลอกเลียนแบบนี้ คือจะทำให้เราได้องค์ประกอบอื่น ๆ ของการสื่อสารไปด้วย เช่น การเน้นเสียงพยางค์ เสียงสูง ต่ำ ภาษากาย และอื่น ๆ อีกมากมาย
อาจไม่จำเป็นต้องลอกทุกคำทุกประโยค ทุกฉากที่มีในหนังก็ได้ ให้เราเลือกบางฉากที่เรารู้สึกว่าประโยคนี้มันเท่ หรือประโยคนี้มันน่าจะเอามาใช้งานค่ะ
เทคนิคที่ 3 Learn in phrases & sentences ยกทั้งวลี & ประโยคมาใช้
ถ้าทุกคนอยากจะพูดให้คล่องขึ้น แอดมินแนะนำให้ฝึกจดเป็นวลี เป็นประโยคที่น่าสนใจ หรือน่าจะได้ใช้เก็บไว้ หรืออาจจดเป็น Fixed expression วลีตายตัว ที่สามารถยกทั้งกลุ่มเอามาใช้ได้เลย อาจมีปรับเปลี่ยนนิดหน่อยให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เช่น

“I could do this all day.”
ฉันทำแบบนี้ทั้งวันก็ยังได้
– Captain America (Avenger – End game 2015)
แล้วเราจะเอาประโยคนี้มาใช้ เมื่อเราเห็นเพื่อนกำลังทำอาหาร และสนุกไปกับมัน ดูเหมือนจะทำได้ทังวันทั้งคืนเลย
เราก็ยกประโยคนี้มาพูดได้เลยค่ะ

“She could do this all day.”
เธอทำแบบนี้ทั้งวันก็ยังได้
– Captain Jack Sparrow Pirates of the Caribbean
“You will always remember this as the day that you almost caught Captain Jack Sparrow!”
คุณจะจำวันนี้ได้เสมอว่านี่เป็นวันที่คุณ เกือบจะจับกัปตันแจ็คสแปร์โรว์ได้
แล้วเราก็เอารูปประโยคต่อไปนี้มาใช้งานมาใช้งานในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงได้เลยค่ะ เช่น
We will always remember this as the day that we almost up but we didn’t.
เราจะจำวันนี้ได้เสมอว่านี่เป็นวันที่เราเกือบจะยอมแพ้ แต่เราก็ไม่ยอมแพ้
เวลาที่เราเจอวลีหรือประโยคที่น่าสนใจ ก็ให้เราเก็บจดไว้ในโน๊ตในสมุดของเรา หรือในโทรศัพท์ของเราได้เลย
ให้เป็นที่ที่เราสามารถกลับมาอ่าน มาทวน หรือกลับมาดึงคำศัพท์เหล่านี้ออกไปใช้ได้ซ้ำ ๆ
และนี้เป็น 3 เทคนิคที่ช่วยเปลี่ยนจากการดูหนังธรรมดาเพื่อความบันเทิง เป็นการดูหนังที่ช่วยให้เราเก่งภาษาได้อีกหลายเท่าเลยค่ะ
ขอให้ทุกคนสนุกกับการฝึกภาษานะคะ
All the best & happy learning,
คะน้า 😀
เรียนลงลึกเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษให้โปรขึ้นสำหรับการทำงานได้ที่คอร์ส
>> ENGLISH FOR CAREER DEVELOPMENT <<
มาเรียนรู้ อัพสกิลภาษาอังกฤษสนุก ๆ กับฝรั่งอั่งม้อได้ที่นี่เลยค่ะ 😀 > คลิกดูคอร์สของฝรั่งอั่งม้อ <