เทคนิคจำศัพท์ได้แม่น ไม่มีลืม!! ด้วยเทคนิค Spaced Repetition

เทคนิคจำศัพท์ได้แม่น ไม่มีลืม!! ด้วยเทคนิค Spaced Repetition

ทำไมเราถึงลืมง่าย ลืมเก่ง ลืมเร็ว
อะไรที่ไม่ควรจำดันจำเก่ง
ส่วนอะไรที่ไม่ควรลืมดันลืมสะงั้น
มีวิธีแก้ยังไงได้บ้างมาดูกัน!

ก่อนจะเข้าสู่เทคนิคจำศัพท์ เรามาเข้าใจ “The Forgetting Curve” กันก่อนค่ะ

สิ่งที่เราเรียน แต่ไม่ได้ดึงออกมาใช้บ่อย ๆ ยิ่งไม่ได้ทบทวน หรือทำซ้ำ
และเมื่อไหร่ที่เราอัดเรียน หรือจำข้อมูลรวดเดียว (Crammimg)
จะทำให้เราจดจำในระยะสั้น ๆ ได้ดี แต่ก็สามารถลืมได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ดังนั้น ถ้าเราอยากให้เราสามารถจดจำข้อมูลในระยะยาวได้ดี
วิธีการแบ่งจำ หรือ ทบทวนข้อมูล (Spaced Repetition) นั่นเอง
เทคนิคที่จะแก้ปัญหานี้ และทำให้เราจำข้อมูลอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น คำศัพท์ หรือประโยคได้นาน ๆ ไม่ลืม
มีหลายงานวิจัย และการทดลองบอกว่า นี่แหละ! เป็นเทคนิคช่วยให้สมองของเราจำข้อมูลได้แม่นขึ้น

What’s Spaced Repetition? มันคืออะไร?
Spaced = เว้นระยะ เว้นช่วง
Repetition = การทำซ้ำ
คือการแบ่งจำ/ ทบทวนข้อมูลเป็นช่วง ๆ

แทนที่เราจะพยายามอ่าน และจำอะไรใน 8 ชม.รวดเดียว
ลองแบ่งเป็น 8 ครั้งแทน ถ้าเราลองใช้เวลาพอ ๆ กัน
แต่ลองแบ่งเวลาในการทบวนให้กว้างออกไป ในระยะเวลาที่นานขึ้น

ไหน ๆ เราก็จะลงทุน ลงแรง ลงเวลาไปกับการเรียนแล้ว
เราก็อยากให้การเรียนของเราเกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลมากที่สุดใช่มั้ยคะ
ใช้เวลาเท่ากัน แต่ได้ผลมากกว่า

วันนี้ฝรั่งอั่งม้อเลยนำ How to มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ลองไปทำตามกันดูนะคะ

Add Learning to your Schedule : จัดตารางเวลาเรียน

เพียงแค่เราจัดเวลาว่าเราจะเริ่มเรียนอะไรในวันไหน
แล้วเราจะกลับมาทบทวนอีกทีเมื่อไหร่
เช่น จะกลับมาอ่านทวนเรื่องที่เราเรียนวันนี้ภายใน 1 อาทิตย์

Keep Track of What You’ve Learned : บันทึกสิ่งที่ได้เรียนไปแล้ว

เราได้อะไรจากการฟัง การดู หรือได้อะไรจากสิ่งที่เรียนมาบ้าง?เพื่อที่เราจะสามารถกลับมาทบทวนได้
โดยที่ไม่ปล่อยให้ผ่านไปเฉย ๆ
และเพื่อให้เรารู้ว่าจะนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปต่อยอดยังไงได้บ้าง
โดยบันทึกในสมุดเล่มเล็ก ๆ หรือในมือถือของเราก็ได้ เพื่อให้เรากลับมาทบทวนได้เรื่อย ๆ
และเพื่อช่วยลดเวลาในการกลับมาทบทวนได้อีกด้วย 

Spaced Out Intervals : เว้นช่องว่างระหว่างทบทวนแต่ละครั้ง ออกไปเรื่อย ๆ

การเว้นช่วงให้เรากลับมาทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ไป จะช่วยให้สิ่งที่เราเรียนรู้ไปอยู่กับเราได้นานขึ้นในทุก ๆ ครั้ง
ที่เรากลับมาทบทวน หรือดึงเอาสิ่งที่เรียนออกมาใช้  โดยเราอาจจะทำเป็น Test ว่าจำได้มั้ยนะว่า เรียนอะไรไปบ้างเมื่อ 3 วันก่อน?
หรือจดคำศัพท์ หรือประโยที่ได้จากการดูหนัง ฟังเพลงนั่น ๆ


ส่วนใครที่รู้นะเทคนิคมันดี แต่ก็ยังขี้เกียจจัดตารางอยู่ดี
หรือไม่รู้จะแพลนการฝึกยังไง
เราวางโปรแกรมมาให้คุณแล้วววว!!

แพลนกิจกรรมตลอดทั้ง 21 วันตามหลักการ Educational Psycology (จิตวิทยาการศึกษา)
และ Behavioral Sciences ว่าทำยังไงให้เราสามารถเรียนรู้
และพัฒนาทักษะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
เหมาะสำหรับใครที่ชอบเรียนรู้ผ่านการใช้จริง
และอยากเอาภาษาอังกฤษเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวัน อยากอัพเกรดสกิลให้พูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น
กับ คอร์ส 21-Day English Transformation

Share the Post: