Use It or Lose It ฝึกก่อนลืม! วางแผนฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้เก่งได้ต่อเนื่อง

วางแผนเรียนภาษาอังกฤษ

Use It or Lose It ฝึกก่อนลืม! วางแผนฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้เก่งได้ต่อเนื่อง

อยากเก่งภาษาอังกฤษ แต่เริ่มฝึกภาษาไปได้ไม่กี่วันก็รู้สึกท้อสุดท้ายก็ล้มเลิก
แล้วเราจะวางแผนฝึกภาษาอังกฤษยังไงให้เห็นผล ทำได้จริง

ก่อนอื่นเรามาเริ่มกันที่…

1. Set your fluency goals
การตั้งเป้าหมาย-วางแผนฝึกภาษาไม่ให้ล้มเหลว

เรามาตั้ง “เป้าหมาย” ที่ชัดเจนกันเถอะ!

“ตั้งเป้าหมายเก่งภาษาเพื่อที่จะ….”

สิ่งที่ต้องชัดเจนก่อนคือ “เป้าหมายที่เป็นของเราจริง ๆ”
เพราะเป้าหมายของแต่ละคนแตกต่างกัน
เป้าหมายที่ดีควรมีลักษณะ ดังนี้

1.1 Realistic – เป็นไปได้จริง มี Timeline ชัดเจน

1.2 Specific – ลงลึกเฉพาะเจาะจง (ยิ่งลงรายละเอียดเยอะ ยิ่งดี)

1.3 Personal – เป้าหมายต้องเป็นของเราจริง ๆ


ตัวอย่างเช่น

“ฉันต้องการสอบ TOEIC ให้ผ่าน เพื่อไปสมัครงานในบริษัทต่างชาติ ภายใน 6 เดือนนี้ ”

หลายคนสงสัยว่า แล้วต้องใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเก่งภาษา
วันนี้ฝรั่งอั่งม้อเอาสูตรคำนวณ “เมื่อไหร่จะเก่งภาษา” มาให้ลองดูกันค่ะ

  • เป้าหมายความคล่องในการใช้ภาษา
  • พื้นฐานที่เรามีตอนนี้
    สำหรับใครที่อยากลองทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ
    เช่น เป้าหมายคืออยากสอบ TOEIC ให้ผ่าน
    ลองเช็กระดับภาษาโดยทดลองทำข้อสอบ Mock Test TOEIC ดูก่อนได้
    จะได้รู้ว่าเราทำได้มากน้อยแค่ไหน
    หรือถ้าเราไม่ได้จะสอบวัดระดับ แต่ต้องการวางแผนฝึกภาษา
    สามารถเช็กระดับภาษา Self-assessment ของฝรั่งอั่งม้อก็ได้เช่นกัน 
    เพื่อให้เรารู้ว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษเราเป็นยังไงในตอนนี้
  • ระยะเวลา + จำนวนครั้งในการฝึก
    เมื่อเรารู้ “จุดเริ่มต้นของเรา” กับ “เป้าหมายของเรา” แล้ว
    ที่เหลือคือ “ระหว่างทาง”
    ซึ่งความสม่ำเสมอเป็นปัจจัยสำคัญของเรื่องนี้เลย
    เพราะการฝึกฝนอะไรก็ตามต้องฝึกทำเป็นประจำ เน้นที่ความถี่เป็นหลัก มากกว่าจำนวนชั่วโมง
    การฝึกภาษาอังกฤษทุกวันวันละ 5-10 นาที ย่อมดีกว่าการฝึกเดือนละ 2 ชั่วโมงรวดเดียว

2. Focus on your systems
โฟกัสที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์

เพราะสิ่งที่จะทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้ คือ กระบวนการ (System)
– จากหนังสือ Atomic Habit by James Clear

แล้ว System หรือสิ่งเล็ก ๆ ที่เราทำซ้ำ ๆ ในทุก ๆ วันให้เก่งภาษาอังกฤษได้

แน่นอนว่า System ของเราต้องมี 2 อย่างนี้ นั่นก็คือ Input & Output
Input (การรับสาร) – Listening & Reading (การฟัง & การอ่าน)
Output (การส่งสาร)- Speaking & Writing (การพูด & การเขียน)

ปกติเรามักจะฝึกรับข้อมูลเป็นหลักอย่างเดียว
เพื่อที่จะทำให้การเรียนของเราเห็นผลลัพธ์ได้ดีที่สุด คือ
การเอาสิ่งที่เราเรียนรู้ออกมาใช้ หรือการสร้าง Output นั่นเอง
และที่สำคัญสิ่งที่เราต้องทำเป็นประจำ จะต้องเรียบง่าย และ สนุก


3. ทบทวนเป้าหมายอยู่เสมอ

หมั่นกลับมาทบทวนเป้าหมายซ้ำ ๆ เพื่อกระตุ้น
และคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอ ว่า “เราทำได้!”
นอกจากนี้การกลับมาอ่านเป้าหมายของตัวเองบ่อย ๆ
ยังเป็นการตอกย้ำให้สมองของเราโฟกัสกับสิ่งที่เราควรทำอีกด้วย

เช่น เป้าหมายในการเก่งภาษาของเรา
คือ “พูดสื่อสารในชีวิตประจำวันได้คล่องไม่ติดแปลภาษาในหัว
เพื่อให้เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น
และเพิ่มคลังคำศัพท์ของตัวเอง
โดยการฝึกพูดกับแอปฝึกภาษาอังกฤษวันละ 10 นาที เล่นเกมจำคำศัพท์วันละ 5 นาที” เป็นต้น

สุดท้ายนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การหมั่นชื่นชม และให้กำลังใจตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำสำเร็จ ก็ถือว่าเราได้ทำแล้ว

และสำหรับใครที่อยากเรียนรู้ทริคในการฝึกภาษาอังกฤษอื่น ๆ
พร้อมปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้พูดได้อย่างมั่นใจ
สามารถเข้าไปทดลองเรียนเพิ่มเติมได้ที่ คอร์สพูดฝรั่งได้ดั่งเสก เลยค่ะ 

Share the Post: